รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีมอบเงินสงเคราะห์ช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน น้ำป่าไหลหลาก
วันนี้ (11 พ.ย.67) นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี รักษาการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ยานี เป็นประธานในพิธีมอบเงินสงเคราะห์ช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (น้ำป่าไหลหลาก) ในพื้นที่อำเภอพรหมคีรี โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี จัดขึ้น ณ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี
โดยนางปุณณีภัก ชื่นสุวรรณ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวรายงานว่า ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (น้ำป่าไหลหลาก) ในพื้นที่อำเภอพรหมคีรี จากสถานการณ์เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2567 ได้เกิดฝนตกหนักบนเทือกเขาหลวง ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากที่บริเวณน้ำตกวังลุง(สองรัก) หมู่ที่ 6 ตำบลทอนหงส์ อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งมีนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำบริเวณรีสอร์ทวังลุงแคมป์ปิ้ง จนกระทั่งน้ำเริ่มเปลี่ยนสีและมีน้ำป่าไหลหลากเป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวลอยไปกับน้ำ ประชาชนในพื้นที่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้ 1 คน และสูญหาย 2 คน ต่อมาพบร่างผู้เสียชีวิต จำนวน 2 คน คือ นางวิลาวรรณ์ บุญนำ อายุ 48 ปี ภูมิลำเนาจังหวัดสุราษฎร์ธานี และนายอุปถัมภ์ ทาเอื้อ อายุ 43 ปี ภูมิสำเนาจังหวัดชัยนาท นั้น
สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ส่งสำเนาเอกสารผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์กับพิบัติกรณีฉุกเฉิน (น้ำป่าไหลหลาก) เพื่อให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี เยี่ยมครอบครัว ให้การช่วยเหลือ ซึ่งพบว่าครอบครัวของผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่พื้นที่ตำบลพ่วงพรมคร อำเภอเคียนชา จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีสมาชิกรวม 4 คน ประกอบด้วยสามี และบุตร 3 คน ซึ่งบุตรอยู่ในวัยเรียน และเนื่องจากผู้เสียชีวิตเป็นเสาหลักของครอบครัว ทำให้ครอบครัวประสบปัญหาค่าใช้จ่ายในการครองชีพ ค่าใช้จ่ายในการศึกษาของบุตร และตามระเบียบมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เรื่อง หลักเกณฑ์การพิจารณาการจ่ายเงินสำรองจ่ายจังหวัด ในการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยพิบัติกรณีต่างๆ สามารถช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต เป็นเงินสงเคราะห์ช่วยเหลือครอบครัวรายละ 10,000 บาท จึงได้จัดพิธีมอบเงินสงเคราะห์ช่วยเหลือขึ้นในวันนี้ ซึ่งทางครอบครัวผู้เสียชีวิตจะได้นำเงินจำนวนดังกล่าวไปใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่าต่อไป.